แก่นหลักของการจัดวางห้องครัวอยู่ที่ ตู้ รูปแบบการจัดวาง โดยทั่วไปมีหลายประเภท เช่น แนวตรง สองแนวตรง รูปตัวแอล รูปตัวยู และรูปเกาะ การจัดวางพื้นผังเดิมที่ผู้พัฒนาโครงการกำหนดไว้มีลักษณะคงที่ ที่จริงแล้วไม่มีรูปแบบใดดีที่สุดอย่างแน่นอน ขอเพียงแค่เคาน์เตอร์ทำงานมีความกว้างเพียงพอที่จะรองรับขั้นตอนการทำอาหารตามลำดับ "หยิบ ล้าง สับ ผัด และจัดวาง" ก็ถือว่าเหมาะสม ท้ายที่สุดนี้ ขึ้นอยู่กับนิสัยการประกอบอาหาร ลำดับการทำงานที่สมบูรณ์แบบคือ การหยิบวัตถุดิบจากตู้เย็น ล้างในพื้นที่ล้าง หั่นในพื้นที่เตรียมอาหาร ผัดในพื้นที่ทำอาหาร และสุดท้ายจัดวางอาหารได้อย่างสะดวก กระบวนการนี้ถือว่าลื่นไหลที่สุด อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของบ้านมีข้อกำหนดที่สูงกว่าสำหรับห้องครัว เราจำเป็นต้องเข้าใจจุดสำคัญของการจัดวางให้มากขึ้น เพื่อสามารถวางแผนได้อย่างเหมาะสมในการออกแบบปรับปรุงในขั้นตอนถัดไป แม้ว่าการจัดวางตู้จะเป็นหน้าที่ของนักออกแบบบริษัทตู้โดยตรง แต่พวกเขาจะปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ โดยอิงจากแผนภาพรวมของเรา ดังนั้นความสะดวกในการใช้งานของห้องครัวจึงขึ้นอยู่กับการออกแบบเพื่อปรับปรุงแบบแปลนบ้านให้มีเหตุผลตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการพูดคุย
ต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญบางประการสำหรับการวางแผนการจัดวางห้องครัว:
1. ตำแหน่งของท่อน้ำเสียกำหนดตำแหน่งของอ่างล้าง
เพื่อหลีกเลี่ยงการอุดตันของท่อน้ำเสียในห้องครัว อ่างล้างควรติดตั้งใกล้กับท่อน้ำเสียโดยตรง ส่วนใหญ่ท่อน้ำเสียในห้องครัวมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 75 มม. ในขณะที่บางห้องครัวใช้ท่อน้ำเสียมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 50 มม. เมื่อพบท่อน้ำเสียขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 50 มม. ควรหลีกเลี่ยงการย้ายตำแหน่งอ่างล้างในห้องครัว มิฉะนั้นเศษอาหารมีแนวโน้มที่จะทำให้ท่อเกิดการอุดตัน
2. ตำแหน่งของท่อระบายควันเป็นตัวกำหนดตำแหน่งของเตา
หากท่อระบายควันของเครื่องดูดควันมีความยาวเกินไปหรือมีมุมโค้งมากเกินไป จะทำให้แรงดูดไม่เพียงพอ การระบายควันไม่ดี และอาจก่อให้เกิดเสียงดังขณะเครื่องดูดควันทำงาน ระยะที่เหมาะสมที่สุดระหว่างเครื่องดูดควันกับเตาคือ 200 - 1000 มม. หากระยะห่างเกิน 1000 มม. เนื่องจากปัญหาแบบบ้าน จะต้องเลือกใช้เครื่องดูดควันที่มีประสิทธิภาพการระบายอากาศที่ดีกว่า หากมีการเปลี่ยนแปลนบ้านอย่างมาก ควรจำไว้ว่าเครื่องดูดควันควรอยู่ใกล้กับท่อระบายควัน เมื่อวางแผนตำแหน่งติดตั้งเครื่องดูดควัน ควรพิจารณาเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับการเดินท่อระบาย เพื่อให้มั่นใจว่าความยาวของท่อระบายจะสั้นที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
3. ลักษณะแปลนบ้านเป็นตัวกำหนดตำแหน่งของตู้เย็น และตำแหน่งของตู้เย็นเป็นตัวกำหนดแผนการปรับปรุงแปลนบ้าน
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ขนาดใหญ่ที่อยู่ในห้องครัว การเข้าใจขนาดของตู้เย็นจะช่วยให้เราสามารถจัดเตรียมพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม ขนาดของตู้เย็นแบบประตูเดี่ยวทั่วไปมีขนาดประมาณ 560 มม. (กว้าง) * 550 มม. (ลึก) * 1750 มม. (สูง); ส่วนตู้เย็นแบบสองประตูและหลายประตูจะมีความกว้าง 700 - 1000 มม. ความลึก 650 - 700 มม. และความสูง 1740 - 1800 มม.
เมื่อจัดวางห้องครัว มักเกิดปัญหากับตู้เย็น เช่น ไม่สามารถใส่พอดีหรือใช้งานไม่สะดวกหลังจากวางแล้ว ดังนั้น ตู้เย็นควรวางตำแหน่งใดได้บ้าง?
(1) การวางตู้เย็นภายนอกห้องครัว
หากห้องครัวไม่สามารถวางตู้เย็นได้จริง ๆ อาจพิจารณาพื้นที่สาธารณะ เช่น ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร ระเบียงห้องนั่งเล่น หรือทางเดิน
- การวางในห้องนั่งเล่น : โดยทั่วไปจะจัดวางไว้ที่มุมหนึ่งของห้องรับประทานอาหาร หรือระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องรับประทานอาหาร เมื่อจัดวางในห้องรับประทานอาหาร สามารถวางแยกอยู่มุมห้องเพียงอย่างเดียว หรือรวมเข้ากับตู้เก็บไวน์ก็ได้ ในการออกแบบ ควรพิจารณาซ่อนตู้เย็นไว้ให้มิดชิดจะดูดีกว่า สภาพที่เหมาะสมที่สุดคือความหนาของตู้เท่ากับความหนาของตู้เย็น หากงบประมาณเอื้ออำนวย แนะนำให้ใช้ตู้เย็นแบบบิลท์อิน ประตูตู้เย็นจะมีสีและวัสดุเดียวกันกับตู้ ทำให้ดูเป็นหนึ่งเดียวกันมากยิ่งขึ้น
- การจัดวางที่ระเบียงห้องนั่งเล่น : ระเบียงห้องนั่งเล่นส่วนใหญ่มักอยู่ติดกับห้องครัวและห้องรับประทานอาหาร ถ้าห้องครัวไม่มีพื้นที่พอสำหรับตู้เย็น การจัดวางไว้ที่ระเบียงห้องนั่งเล่นจึงเหมาะสมมาก ระยะทางไม่ไกล และห้องครัวก็จะมีพื้นที่เคาน์เตอร์เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
- การจัดวางในพื้นที่สาธารณะ เช่น ทางเดิน : ควรทำให้เป็นแบบติดตั้งในผนังที่ไม่ยื่นออกมาจากผนัง โดยสามารถออกแบบได้ด้วยการรวมรูปทรงของผนังหรือใช้ฉากกั้นเพื่อปกบัง
(2) การออกแบบอย่างไรหากต้องวางตู้เย็นในห้องครัว?
หากพื้นที่คับแคบแต่จำเป็นต้องวางตู้เย็น จำเป็นต้องปรับแปลนด้วยความพยายามอย่างมาก โดยการสร้างรูปทรงเว้า ย้ายตำแหน่งประตู หรือยืมพื้นที่จากส่วนอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งต้องมีการปรับเปลี่ยนเฉพาะตามสถานการณ์จริง อาจต้องใช้พื้นที่อื่นและเปลี่ยนโครงสร้างประเภทบ้าน
EN
ข่าวเด่น
